เมื่อการสร้างบ้านอยู่เองบนที่ดินเปล่ากลายเป็นประสบการณ์ติดลบที่เจ้าของบ้านหลายคนพบเจอ และกลัวที่จะตัดสินใจจ่ายเงินก้อนใหญ่กับผู้รับเหมาคนใดคนหนึ่ง เพราะกลัวปัญหาทิ้งงาน ได้บ้านไม่ตรงปก และสูญเงินก้อนใหญ่

เพื่อลดปัญหาดังกล่าวการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเป็นมืออาชีพ มีผลงานเป็นที่ยอมรับ และเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จะช่วยการันตีได้ว่าเมื่อตัดสินใจสร้างบ้านกับบริษัทเหล่านี้ ย่อมได้บ้านอย่างแน่นอน ดังนั้นมาดูกันว่าหากจะเลือกบริษัทรับสร้างบ้านสักที่ควรต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรประกอบบ้าง

 7 เรื่องสำคัญต้องพิจารณาในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

1. การบริการและระบบงานที่ครบวงจร

ข้อดีอย่างหนึ่งที่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ตัดสินใจสร้างบ้านอยู่เองคือการมีบริการแบบครบวงจรและมีการบริหารจัดการงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกเหมือนลงทุนจ้างที่เดียวแล้วได้ทุกสิ่งครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการบริการ หรือการดำเนินงานต่างๆ เช่น

• การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแบบบ้านเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณและขนาดที่ดิน

• การดูแลและวางแผนจัดการงานสร้างตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ พร้อมบริการหลังสร้างเสร็จ

• การให้คำแนะนำเกี่ยวกับวัสดุต่างๆ เพื่อให้เจ้าของบ้านมีตัวเลือกมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เปิดรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยเพื่อออกแบบบ้านและเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับทุกๆ ชีวิตในบ้าน

• การดำเนินการเรื่องเอกสาร การขออนุญาตก่อสร้าง และการติดต่อด้านสาธารณูปโภคต่างๆ

• การแบ่งส่งงานและจ่ายเงินเป็นงวดๆ ทำให้สามารถวางแผนการเงินและไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ทีเดียว

2. มีตัวตนอยู่จริง และมีหลักแหล่งที่ตั้งบริษัทชัดเจน

บริษัทรับสร้างบ้านที่มีที่อยู่ที่ตั้งบริษัทเป็นหลักแหล่ง นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของบ้านในการเข้ามาติดต่องานสร้างบ้าน หรือขอดูแบบบ้านพร้อมรับคำปรึกษาแล้ว ยังทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทนั้นมีตัวตนอยู่จริง หากงานมีปัญหาก็สามารถติดตามหรือแจ้งปัญหากับทางบริษัทได้ ไม่ต้องกลัวโดนเทหรือหนีหาย

3. สร้างบ้านได้บ้าน ไม่เท ไม่ทิ้งงาน

การลงทุนก้อนใหญ่ไปกับการสร้างบ้านโดยใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ด้วยความเป็นมืออาชีพ บริการที่ครบวงจร และการมีที่ตั้งบริษัทที่แน่นอนย่อมทำให้เจ้าของบ้านสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าบริษัทเหล่านี้จะทำงานสร้างบ้านได้จนจบตามข้อตกลง และไม่ทิ้ง ไม่เทงานอย่างแน่นอน

ที่สำคัญทางบริษัทมีขั้นตอนการทำงานที่สามารถตรวจสอบได้ หากมีปัญหาในขั้นตอนไหนก็สามารถชะลอการจ่ายเงินค่าจ้างได้ จึงเป็นข้อดีที่ทำให้การสร้างบ้านไม่มีปัญหา และได้งานคุ้มกับเงินที่จ่ายไป

4. มีมืออาชีพและผู้เชี่ยวชาญการสร้างครบครัน

บริษัทรับสร้างบ้าน เป็นเหมือนศูนย์รวมทีมงานที่เกี่ยวข้องกับงานสร้างบ้าน มีประสบการณ์และความชำนาญ มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน ควบคุมตรวจสอบได้ นอกจากนี้แต่ละบริษัทยังมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างและเทคนิคใหม่ๆ แก่ทีมงานอยู่เสมอ พร้อมรองรับทุกความต้องการ ช่วยให้เจ้าของบ้านไม่ต้องเหนื่อยหาคนทำงานเอง และไม่ต้องคอยลุ้นหรืออยู่ในสถานการณ์เสี่ยงกับทีมงานที่ไม่มีประสบการณ์และความรับผิดชอบ

5. แบบบ้านหลากหลาย ออกแบบได้ตรงใจ

เมื่อเจ้าของบ้านตกลงเลือกบริษัทรับสร้างบ้านบริษัทใดบริษัทหนึ่ง สามารถเข้ารับคำแนะนำหรือปรึกษาเรื่องแบบบ้านที่ต้องการได้ โดยส่วนใหญ่บริษัทต่างๆ จะมีแบบบ้านมาตรฐานอย่างหลายแบบหลายสไตล์ที่สามารถเลือกได้เลย

หรือหากต้องการแบบอื่นๆ ก็สามารถนำตัวอย่างให้ทีมงานดู หรือปรับจากแบบบ้านมาตรฐานของบริษัท หรือบอกรายละเอียดของบ้านที่ต้องการเพื่อให้ทีมออกแบบบ้านให้ใหม่

ดังนั้นการมองหาบริษัทรับสร้างบ้านจึงทำให้เจ้าของบ้านมีทางเลือกเรื่องแบบบ้านอย่างไม่จำกัด และได้บ้านที่เหมาะสมกับการพักอาศัยของสมาชิกครอบครัวทุกๆ คน

6. งานมีระบบ จบงานตรงเวลา

เรื่องของเวลาการทำงานและระบบจัดการงานรวมถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆ หน้างานนั้น หากบริษัทรับสร้างบ้านมีประสบการณ์การทำงานมามาก จะทำให้มีระบบจัดการงานได้อย่างง่ายดาย และมีทางออกของการแก้ปัญหาอย่างครอบคลุม พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นได้อย่างเป็นมืออาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่าแม้ระหว่างการสร้างบ้านจะมีปัญหาจากเหตุปัจจัยใดก็ตามไม่ว่าจะจากคน ทีมงาน หรือสภาพแวดล้อม ทางบริษัทก็ยังสามารถคุมเวลาการสร้างบ้านให้แล้วเสร็จได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด

ซึ่งการคุมงานให้ได้บ้านตรงตามเวลา จะช่วยเอื้ออำนวยให้เจ้าของบ้านสามารถวางแผนการย้ายเข้าอยู่ได้แน่นอน บางกรณีที่เจ้าของบ้านต้องเช่าที่อื่นอยู่ หรือเช่าพื้นที่ในการเก็บของระหว่างรอบ้าน หากได้บ้านตรงเวลาก็สามารถคุมค่าใช้จ่ายส่วนของค่าเช่าได้ ทำให้ไม่เสียเงินบานปลาย

7. ผลงานน่าเชื่อถือพร้อมประกันงานสร้าง

บริษัทรับสร้างบ้านนอกจากจะมีสัญญาจ้างงานที่ชัดเจนถูกต้องแล้ว ควรมีผลงานการสร้างที่สามารถเข้าดูได้ หรือมีลูกค้ารายอื่นๆ ที่เคยสร้างบ้านแล้วสามารถให้คำแนะนำปรึกษาการใช้บริการของบริษัทได้ ทำให้เห็นผลงานจริงและใช้ประกอบการพิจารณาได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ควรมีการรับประกันงานหลังสร้างเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหรือส่วนอื่นๆ ของบ้าน ซึ่งส่วนนี้เจ้าของบ้านอาจใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบการบริการของแต่ละบริษัท และทำให้มั่นใจว่าแม้บ้านสร้างเสร็จแล้วทางบริษัทก็ยังคอยดูแลและบริการไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

สิ่งสำคัญของการเลือกใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านคือความเป็นมืออาชีพ และความรับผิดชอบต่องานตั้งแต่เริ่มจนแล้วเสร็จ ทั้งยังมีบริหารแลพดูแลหลังสร้างเสร็จอีกด้วย ซึ่งหากเจ้าของบ้านเลือกบริษัทที่มีคุณสมบัติตาม 7 ข้อข้างต้น พร้อมนำมาเปรียบเทียบหลายๆ บริษัทเพื่อให้ได้ผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์ที่สุด ก็มั่นใจได้ว่าเงินลงทุนสร้างบ้านที่จ่ายไปไม่สูญเปล่าแน่นอน